ตามตลาดนัดในสุราษฎร์ธานีส่วนใหญ่จะขายเสื้อผ้าประมาณ 85% เลยทีเดียว ส่วนที่เหลือก็จะเป็นกิ๊ฟช๊อป เบ็ดเตล็ด ราคาที่ตั้งขายตามตลาดนัดโดยส่วนใหญ่จะตั้งไว้ที่ประมาณ 20 , 99 , 199 , 299อะไรประมาณนั้น เป็นราคาที่ทำให้ลูกค้าควักเพื่อจ่ายเงินซื้อง่ายๆ อะไรแบบนั้น
ช่วงแรก ๆ มีแม่ค้าพ่อค้าหลายรายมาถามผมว่า ราคาหลักพันแบบนี้ลูกค้าจะมีเงินซื้อหรือป่าว เพราะส่วนใหญ่ตามตลาดนัดนั้นราคาสินค้าจะไม่สูงขนาดนี้ ผมก็นั่งเงียบๆ พร้อมกับคิดในใจว่า จะซื้อหรือไม่ซื้อนั้น ผมมองว่ามันเป็นการตัดสินใจของลูกค้าครับ หากเขาพอใจเขาและเห็นว่าสินค่าผมราคาไม่แพงจริงๆ และคุ้มค่าที่จะซื้อ เรื่องเหล่านี้ย่อมไม่เป็นปัญหา แต่นั่นแหละครับมันจึงเกิดเป็นอุปสรรคที่สำคัญอย่างหนึ่งของผมคือ ราคาสินค้าที่ผมขายอยู่นั้นแม้จะถูกมากในสินค้าประเภทเดียวกันแต่เมื่อนำไปตั้งอยู่ตามตลาดนัดนั้นก็ถือว่าเป็นราคาที่จัดว่าสูงที่สุดในตลาดนัดเลยครับ สินค้าพวกนี้จะมีกลุ่มลูกค้าเฉพาะอยู่แล้ว เป็นสินค้าที่ต้องตั้งใจมาซื้อ หรือหากว่าบังเอิญอยากได้ก็ต้องมีเงินในกระเป๋าอยู่พอสมควร นี่คือสิ่งที่ผมต้องใช้ความอดทนในการขายครับ จะมาเปรียบเทียบกับเสื้อผ้ามือหนึ่งมือสองหรือ ต่างหูหรืออุปกรณ์เสริมโทรศัพท์ที่แต่ละอย่างราคาซื้อง่านยจ่ายคล่องนั้น ย่อมไม่ได้แน่นอน
![]() | |
แผงขายที่มีขนาดเล็กเท่ากับหนึ่งล๊อคให้เช่าพอดิบพอดี |
และอย่างที่เห็นครับว่าแผงของผมทีใช้ในการตั้สินค้านั้นเรียบง่ายมาก ๆ ด้วยความที่เราต้องการให้ต้นทุนต่ำที่สุดจึงมีการประยุกต์ใช้สิ่งที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุดและขนย้ายง่ายด้วยครับ ซึ่งโดยหลัก ๆ แล้วผมจะมี
1. ลังใส่ของสีดำ 2 ลูก เพื่อใช้เก็บอูคูเลเล่ในการขนย้ายไป - กลับระหว่างตลาดนัด กับที่บ้าน และนอกจากนั้นยังสามารถที่จะเอาเป็นโต๊ะเล็กๆ ไว้เพื่อตั้งเป็นแผงได้อีกด้วยในเวลาที่เราขายของ
2. ตะแกรงตะข่าย
3. ป้ายราคา
4. หลอดไฟ และปลั๊กไฟ
5. เก้าอี้ตัวเล็ก ๆ สักตัว เอาไว้นั่งขาย (จะได้ไม่เมื่อย)
No comments:
Post a Comment