Sunday, January 19, 2014

ประยุกต์และดัดแปลงใช้สิ่งที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลงทุนและจ่ายเงินให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด

การขายของตลาดนัดหรือตลาดไม่นัดก็ตามมันต้องมีกำไรที่คุ้มค่าพอ และต้องสามารถเป็นไปตามแผนการเงินที่ผมวางเอาไว้คือ ต้องคืนทุนหมดภายใน 50 วัน  และสิ่งที่ทำต่อมาคือการแก้ปัญหาหลายๆอย่างโดยที่เราจะต้องไม่ใช้เงิน อิอิ ไม่ได้ตลกครับและไม่ใช่เรื่องตลกด้วย  โจทย์คือ "ไม่ใช้เงิน" จะต้องใช้แต่สิ่งที่มีหรือสิ่งที่ไม่เสียเงินเท่านั้นหรือหากจะเสียเงินต้อง"เสียเงินให้น้อยที่สุด"แต่ต้องได้ผลลัพธ์ที่"คุ้มค่าแบบสุดๆ"   

การแก้ปัญหาอันแรกคือ เรื่องของโต๊ะที่ใช้วางเครื่องสายไหมในตลาดนัด วันแรกๆ ที่ขาย ผมตั้งเครื่องทำสายไหมไว้บนแผงไม้ไผ่ที่วางบนแผงเหล็กอีกทีหนึ่ง ผลก็คือ มันสูงเกินไปที่จะปั่นขาย สาเหตุเพราะว่าลืมคิดถึงตอนที่ต้องขายจริงๆว่าระดับความสูงที่เหมาะสมคือต้องเป็นระดับที่ลูกค้าสามารถมองเห็นกระบวนการทำสายไหมและตื่นตาตื่นใจกับใยสายไหมที่กำลังเกาะไม้จนกระทั่งก้อนโตกลม ซึ่งในรูปนี้คือวันแรกที่ผมไปขาย  เครื่องอยู่ในระดับที่สูงมากกกกกกกกกก 




ขนาดผู้ใหญ่ยังต้องชะเง้อและเขย่งขาเพื่อมอง นับว่าสูงเกินไป โจทย์ข้อแรกคือต้องลดระดับความสูงลงโดยที่เราต้องไม่มีการลงทุนเพิ่ม อืมมมม .... มันเป็นไปได้นะครับ ดวงจันทร์มนุษย์ก็ไปเหยียบมาแล้ว นับประสาอะไรกับปัญหาแค่นี้ ก็จัดการนั่งคิดนอนคิดเอาแผงเหล็กมาประกอบแล้วนั่งดูมันทุกมิติ เอ้ย ... มันก็เป็นแค่โครงเหล็กกลวงๆที่สามารถจะเอาอะไรใส่ไว้ข้างในได้ หรือสามารถเอาไปประกอบครอบล้อมสิ่งใดก็ได้นี่นา  ว่าแล้วก็จัดการวางตัวเครื่องและประกอบโครงเหล็ก ผลลัพธ์จากไอเดียที่ได้ค่อนข้างน่าพอใจ 



และนี่คือสภาพการใช้งานจริงๆ ครับ ไม่ว่าจะเด็กเล็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถมองเห็นกระบวนการทำสายนไหมภายในโคมสแตนเลสได้อย่างชัดเจน เพียงแค่ใช้จุดเด่นของโครงเหล็กที่เป็นโครงและกลวง ก็วางเครื่องทำสายไหมไว้ภายในได้แบบสบายๆ  ส่วนแผงซี่ไม้ไผ่ที่ซื้อมาเมื่อตอนแรกคงต้องเก็บเข้ากรุไปตามระเบียบรอวันหน้าเผื่อจะได้เอามาใช้ประโยชน์อย่างอื่นอีก



อันนี้คือโจทย์ที่ไม่ยากครับ แต่ที่ยากคือ ต้องสามารถขนย้ายอุปกรณ์ทุกอย่างจากบ้านไปยังตลาดนัดโดยใช้มอเตอร์ไซค์คันเดียวนี่คือโจทย์ข้อที่สอง


หลายๆท่านยุและเชียร์ให้ผมซื้อรถพ่วงข้างหรือรถยนต์เพื่อเอาไว้บรรทุกอุปกรณ์ไปตลาดนัดเพราะมันเยอะมาก เครื่องสายไหมก็หนัก อุปกรณ์ต่างๆก็เยอะแยะมากมาย บางคนก็แนะนำว่าขายผ้ามือสองจะดีกว่าไหมเพราะเราสามารถใช้มอเตอร์ไซค์ขนย้ายได้ง่ายกว่า ผมจึงบอกพวกเค้าไปว่าผมจะเป็นคนแรกที่ขายสายไหมโดยใช้แค่มอเตอร์ไซค์แบบไม่ต่อพ่วงข้างให้ดู   ไปดวงจันทร์มนุษย์ก็ทำได้มาแล้ว นี่จะมาจนปัญญากับการขนอุปกรณ์เครื่องทำสายไหมไปตลาดนัดแค่นี้หรือ....

เมื่อตอนเริ่มต้นขายได้สามวันแรกนั้น ผมอาศัยรถยนต์ของพี่ชายในการขนย้ายทุกครั้ง  และก็หยุดขายประมาณครึ่งเดือน เพราะผมเอารถมอเตอร์ไซค์ไปต่อเติมโครงเหล็กด้านหลังเพิ่มเพื่อใช้วางเครื่องทำสายไหมโดยเฉพาะครับ เพราะผมประเมินดูแล้วว่าถ้าเป็นรถมอเตอร์ไซค์ธรรมดาๆ หากต้องขนอุปกรณ์ต่างๆ โดยไม่มีเครื่องทำสายไหมนั้น สามารถขนย้ายได้หมดโดยใช้มอเตอร์ไซค์คันเดียวได้แบบสบายๆ ถ้าต่อเติมก็ต้องต่อเติมความยาวด้านหลังออกไปเพิ่มอีกเป็นพิเศษเพื่อวางเครื่องทำสายไหมโดยเฉพาะ เท่านี้ก็จบ ส่วนราคาค่าต่อเติมนั้นถือว่าไม่แพงครับหากเทียบกับการหลุดข้อจำกัดจากที่ต้องใช้รถพ่วงข้างหรือรถยนต์ขนย้ายให้สามารถใช้มอเตอร์ไซค์เพียงคันเดียวมาขนย้ายอุปกรณ์ต่างๆ ได้แบบสบายๆ 


นี่คือรูปก่อนที่จะดัดแปลงเพิ่มพื้นที่วางเครื่องสายไหมด้านหลัง 


และนี่คือรูปหลังจากต่อเติมโครงเหล็กเพื่อวางสายไหม 





เอาแค่นี้ก่อนก็แล้วกันนะครับ จริงๆ มันมีอะไรจิปาถะอีกเยอะแต่เลืกมาเฉพาะที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านและสามารถประยุกต์เอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้แบบจริงๆ  



 

No comments: