Monday, November 18, 2013

เริ่มต้นขายของตลาดนัดกัน (-7) ขายอะไรดี ??? ต้องมีแนวทางก่อน

วผมมานั่งทบทวนบทเรียนเกี่ยวกับการขายของตลาดนัดที่ผ่านๆมา เพื่อที่จะเอาข้อมูลเหล่านี้มากำหนดกรอบว่าเราควรจะขายอะไรดี 
เอิ่ม ...  แบบว่า ผมไม่ค่อยอยากจะขายตามที่ใครๆ เค้าชอบบอกว่า "เฮ้ย ไอนี่ก็น่าขายนะ กำไรงาม" "ไอโน่นกำลังฮิตเลย น่าซื้อมาขายบ้างนะมึง"

เอาละ กรอบของธุรกิจตลาดนัดที่ผมกำลังจะเร่ิมต้นนี้ ผมนั่งคิดและเขียนลงในสมุดเพื่อจะคิดและต่อยอดจนเกิดเป็น"สไตล์ของผมเอง" 


 ท่านอาจจะมองว่าแค่ขายของตลาดนัดทำไมต้องคิดอะไรให้ยุ่งยาก ... เออ มันก็ใช่นะ ไม่ต้องคิดเยอะ งั้นพรุ่งนี้ลุยกันเลย เอาสินค้าอะไรก็ไ้ด้ ที่ซื้อมาถูกๆ แล้วขายให้แพงสักนิดแค่นี้ก็ได้กำไรแล้ว เริ่มจากอะไรดีละ รองเท้ามือสอง .... ขายกาแฟโบราณ ... ข้าวเหนียวหมูย่าง... หรือสินค้ากิ๊ฟชอบชิ้นละ 5 บาท หรือเสื้อผ้านำเข้า ฯลฯ  แต่ !!! พอเริ่มขายไปได้สัก 1 เดือน เริ่มจะมีข้ออ้างและเหตุผลที่จะล้มเลิก เช่น คู่แข่งเยอะว่ะ   ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าร้านเรา  ช่วงนี้หน้ามรสุม ออกไปขายไม่ได้  เงินลงทุนเริ่มบานปลายไปเรื่อยๆ แล้ว เลิกดีกว่า และอีกสารพัดเหตุผลที่ดีที่มาสนับสนุนว่า ทำไมเราควรจะเลิก 

การมีกรอบและแนวทางก่อนที่จะเริ่มธุรกิจ ใช่ครับ ธุรกิจ และผมจะเน้นว่ามันคือ ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่สำหรับผมอย่างมาก ไม่ว่ามันจะเริ่มต้นด้วยเงินไม่กี่ร้อยก็ตาม ผมถือว่าผมลงทุนและผมต้องการจะเปลี่ยนชีวิตตัวผมเอง การที่มองว่ามันคือธุรกิจ มันทำให้ผมมีพลังในการคิด  แค่นี่แหละครับ สำหรับเหตุผลที่ว่าทำไมต้องใช้คำว่า ธุรกิจ 

แนวทางที่ผมนั่งคิดอยู่นี้เป็นการอุดช่องโหว่จากบทเรียนที่เคยประสบพบเจอมากับตัวเองและประสบการณ์ที่ได้ฟังมากจากผู้้อื่นให้มากที่สุด มันเปรียบเสมือนการบังคับให้เราเดินในเส้นทางที่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มและทำให้เราไม่เดินหลงทางหรือเกิดความโลเล แนวทางที่ผมวางไว้เกี่ยวกับธุรกิจขายของตลาดนัด มีดังนี้

1 ขนย้ายง่าย  มันดีแน่นอนครับ ถ้าขนย้ายง่าย มีแค่มอเตอร์ไซค์ก็สามารถขนย้ายได้เนี่ยจะเป็นการลดต้นทุนด้านค่าน้ำมันรถได้เป็นอย่างดี 



2 เวลาจัดแผงเพื่อขายสินค้าในตลาดนัดอาจจะใช้เวลามากหรือน้อยก็ไม่เป็นไร แต่เวลาเก็บสินค้าต้องสามารถเก็บโดยใช้เวลาให้น้อยที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงเวลาฝนตก สมัยที่ผมเริ่มขายของตลาดนัดในช่วงแรกๆ  ผมสังเกตเห็นแม่ค้าพ่อค้ามืออาชีพสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้แบบปกติหน้าตาเฉยในช่วงเวลาที่ดอกฝนเม็ดแรกสัมผัสกับผิวหนังชั้นนอก พ่อค้าแม่ค้าที่ตั้งขายกลางแจ้งเหล่านี้จะมีระบบรักษาความปลอดภัยของสินค้าที่รวดเร็ว ถ้าท่านนึกไม่ออกให้นึกถึงเจ้ามือวงไพ่ที่ตั้งวงสัก 20 วง ที่เวลาได้ยินว้่า "ตำรวจมา!!! " เค้าทำยังไงครับ ก็จัดการเอาผ้าปูโต๊ะนั่นแหละห่อสำรับไพ่แล้วเก็บอย่างรวดเร็ว  และนี่คือความรู้สึกเดียวกันกับที่ผมเห็นพ่อค้าแม่ค้าทุกคนทำ ซึ่งถ้าเรามีสินค้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังสูง ก็ขอให้หาสินค้าที่ไม่กลัวน้ำและความชื้นมาขายละกัน

3 สามารถประยุกต์และพลิกแพลงตัวสินค้าให้เข้ากับสถานการณ์และเทศกาลในแต่ละช่วงโดยต้นทุนไม่เพ่ิมขึ้นมากนัก จะทำให้สินค้าเราอยู่ในความสนใจของผู้คนได้ตลอด เช่น นาย A เปิดร้านขายเสื้อ แล้วจู่ๆ ก็มีการชุมนุมทาการเมืองกันแถวๆร้านของนาย A เขาจึงฉวยโอกาสสกรีเสื้อยืดสีดำที่พิมพ์คำว่า " ไม่เอา นิรโทษกรรม" สรุปว่าขายดีจนทำแทบไม่ทัน พอผ่านไปอีก สามสัปดาห์ข้าสู่เทศกาลปีใหม่ เขาก็สามารถสกรีนเสื้อให้เข้ากับเทศกาลปีใหม่เพื่อกระตุ้นการขายได้อีก เช่น "สวัสดีปี 2557"  อะไรประมาณนี้แหละ 



4 คู่แข่งลอกเลียนแบบได้ยากเพื่อเป็นการลดรอยรั่วสำคัญที่ว่า "ถ้าคู่แข่งมีเงินเยอะกว่าคุณ เขาก็เหนือกว่าคุณได้" เช่น ร้านขายของชำ หากมีเซเว่นอีเลฟเว่นมาเปิดแข่งกันเมื่อไหร่เป็นต้องเจ๊งทุกราย ฉะนั้น เอกลักษณ์ในธุรกิจต้องมีเพื่อความแตกต่างสินค้าต้องมีความเฉพาะตัวที่คนอื่นเลียนแบบเราได้อยากพอสมควร  ผมจะไม่มองว่าต้องแค่ไม่เหมือนใครเพียงอย่างเดียว แต่ไม่เหมือนแล้วเลียนแบบยากในระดับนึงด้วยนี่สิถือว่าตรงใจผมมากๆ และเปรียบเสมือนเป็นปราการกำแพงชั้นดีไว้ป้องกันไม่ให้คู่แข่งเกิดขึ้นมาอย่างง่ายดายและรวดเร็วอีกด้วย 

5 ต้องมีสัดส่วนกำไรที่สูง เพื่อลดความเสี่ยง

6 ซื้อแล้วต้องหมดไป และก็กลับมาซื้อแบบซ้ำซากได้อีก 

7 สินค้าต้องไม่ใช่ของสดที่เน่าเปื่อย 

8 ต้องไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิต  หรือของมึนเมา เช่น เหล้า เบียร์ เนื้อสัตว์  อันนี้เป็นความต้องการส่วนตัวของผมเอง


ขอผมไปนอนคิดก่อนละกันนะครับว่าจะขายอะไรดี เพราะผมเองแม้จะวางแนวทางไว้ แต่ก็ยังคิดไม่ออกเช่นกันว่าสุดท้ายแล้วจะขายอะไร 

...........

พอเข้ามาดูพอร์ทในวันนี้ หัวใจวาบหวิว เพราะตลาดหุ้นร่วงกระฉูด หลุด 1400 ไปเรียบร้อย จากปัญหาทางการเมืองในประเทศไทยนี่เอง  !!! ผมก็แอบใจไม่ดี เข้ามาเล่นหุ้นยังไม่ถึงปีเลย แต่ก็คิดว่าหุ้นที่ถือนั้นเป็นหุ้นที่มีความมั่นคงสูง ก็ปล่อยวางช่างหัวมันละกัน 55555

ดีไม่ดีอาจจะเก็บหุ้นเพิ่มอีก แต่ยืนยันว่า ไม่คัทลอสครับ 


No comments: